สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
ในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์นั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ น้ำปุ๋ย ในวงการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ จะเรียกปุ๋ยชนิดนี้ว่า ปุ๋ย A และ ปุ๋ย B โดยพื้นฐานแล้ว ปุ๋ย A และ ปุ๋ย B จะมีสีและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแยก ปุ๋ย A และ ปุ๋ย B ออกจากกัน เมื่อยัง
ไม่ใช้งาน
อุปกรณ์ในการผสมปุ๋ยสารละลาย
- ปุ๋ย A และ ปุ๋ย B
- กรดไนตริก ปุ๋ย C
- ภาชนะตวง
- เครื่องวัด PH หรือ Drop test วัดค่า PH
- เครื่องวัด EC
คุณสมบัติของแต่ละอุปกรณ์
จะอธิบายถึงคุณสมบัติต่างๆของอุปกรณ์ในการผสมปุ๋ย
- ปุ๋ยA จะมีลักษณะสีเข้มประกอบไปด้วยแคลเซียมไนเตรท เหล็กดีพี เหล็กโล
- ปุ๋ยB จะมีลักษณะสีเขียวใส ประกอบไปด้วย โปแตสเซียมไนเตรท แมกนีเซียม โมโนโปแตสเซียม และ จุลธาตุ เสริมต่างๆ
- ปุ๋ยC เป็นกรดไนตริก คุณสมบัติเพื่อลดค่า PH น้ำที่จะมาผสมปุ๋บ
- ภาชนะตวง จะเป็น หลอดสลิ้งฉีดยา ใช้สำหรับในการวัดปริมาณปุ๋ย
- เครื่องวัดค่า PH ใช้สำหรับวัดค่า PH ของน้ำก่อนที่จะผสมปุ๋ย โดยจะมีสองแบบคือ แบบเครื่องมือวัด (ราคาสูง)และแบบ DropTest(ราคาถูก)
- เครื่องวัดค่า EC ใช้สำหรับวัดค่าความเข้มข้นของปุ๋ยที่ผสมกับน้ำ
ขั้นตอนการผสมปุ๋ย AB
- คำนวณปริมาณน้ำที่ต้องการ และใส่น้ำลงไปในถัง
- วัดค่า PH โดยใช้อุปกรณ์วัดค่า PH
- ปรับค่า PH ให้อยู่ระหว่าง 6.0 – 6.5 โดยใช้กรดไนตริกเพื่อลดค่า PH กรณีค่า PH ต่ำเกินไป ให้เติมน้ำเพิ่ม
- เติมปุ๋ย A ในอัตราส่วน ปุ๋ย 5cc ต่อ น้ำ 1 ลิตร
- คนปุ๋ย A ให้ทั่วถังผสม
- เติมปุ๋ย B ในอัตราส่วน ปุ๋ย 5cc ต่อ น้ำ 1 ลิตร
- คนปุ๋ย B ให้ทั่วถังผสม
- วัดค่า EC ให้อยู๋ที่ 1.6-1.7
- ถ้า EC ต่ำ ให้เติมปุ๋ย A และ B ลงไปในอัตราส่วนที่เท่ากัน
- ถ้า EC สูง ให้เติมน้ำเปล่าที่ปรับค่า PH แล้ว ลงไป
ข้อแนะนำ
ควรวัดค่า PH และ ค่า EC อย่างน้อยทุก 2 วัน เพื่อไม่ให้น้ำปุ๋ยมีค่าที่ PH ที่สูงเกิน และค่า EC ที่น้อยเกิน เนื่องจากค่า PH และ EC จะเปลี่ยนแปลงเมื่อถูกแสงแดดและผักสลัดก็ดูดสารอาหารจากปุ๋ยไป
เราทุกคนสามารถเรียนรู้ และเก่งชำนาญได้ในทุกๆเรื่อง เมื่อมีความตั้งใจ
ขอให้ทุกคนโชคดี
coachnong